ภาษาไทย

คำอธิบายรายวิชา

รายวิชาภาษาไทยพื้นฐาน 2                 รหัสวิชา  ท 21102      กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย 

ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1      ภาคเรียนที่ 2             เวลาเรียน  60 ชั่วโมง    จำนวน  1.5 หน่วยกิต

           ระบุเหตุผล  ข้อเท็จจริง  ข้อคิดเห็นจากเรื่องที่อ่าน  ระบุและอธิบายคำเปรียบเทียบ  และคำที่มีหลายความหมาย  ในบริบทต่างๆจากการอ่าน  ตีความคำยากในเอกสารทางวิชาการโดยพิจารณาบริบท  ระบุข้อสังเกต  และความสมเหตุสมผลของงานเขียนประเภทชักจูงโน้มน้าวใจวิเคราะห์คุณค่าที่ได้รับ จากการอ่านงานเขียนอย่างหลากหลายเพื่อนำไปใช้แก้ปัญหาในชีวิต

          อ่านออกเสียงบทร้อยแก้ว  และบทร้อยกรองได้ถูกต้องตามความเหมาะสมกับเรื่องที่อ่าน  จับใจความสำคัญจากเรื่องที่อ่าน  ปฏิบัติตามคู่มือแนะนำการใช้งานของเครื่องมือหรือเครื่องใช้ในระดับที่ยากขึ้น  คัดลายมือตัวบรรจงครึ่งบรรทัด  พูดสรุปใจความสำคัญของเรื่องที่ฟัง  และดู  เล่าเรื่องย่อจาก เรื่องที่ฟัง และดู  พูดพูดแสดงความคิดเห็น อย่างสร้างสรรค์กับเรื่องที่ ฟังและดู  พูดรายงานเรื่องหรือประเด็นที่ศึกษาค้นคว้าจาก

การฟัง  การดู  การสนทนา  แต่งบทร้อยกรอง  สรุปความรู้ข้อคิดเห็นจากการอ่าน  เพื่อประยุกต์ใช้ในชีวิตจริง   ท่องจำบทอาขยานตามที่กำหนด  และบทร้อยกรองที่มีคุณค่าตามความสนใจ.

มีมารยาทในการอ่าน  มีมารยาทในการเขียน  มีมารยาทในการฟัง  การดู  และการพูด

สาระสำคัญ

พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ ๖) ทรงพระราชนิพนธ์บทเสภาสามัคคีเสวกเป็น  ในขึ้น ณ พระราชวังสนามจันทร์ เมื่อปีพ.ศ. ๒๔๕๗  เพื่อใช้ขับเสภาคั่นระหว่างการแสดงระบำสามัคคีเสวก  บทเสภาสามัคคีเสวกแต่งด้วยกลอนเสภาที่มีฉันทลักษณ์อย่างกลอนสุภาพ  กลอนเสภานี้ใช้เป็นบทเสภาเพื่อ ขับเสภาระหว่างที่พิณพาทย์พักเหนื่อย  สันนิษฐานว่าการขับเสภานั้นพัฒนามาจากการเล่านิทานในสมัยก่อน จากเดิมที่มีแต่การเล่านิทานแบบร้อยแก้ว  ต่อมาก็เริ่มมีผู้แต่งนิทานแบบร้อยกรอง  แล้วจึงมีการใส่ทำนอง        ขับเสภาและใช้กรับเป็นเครื่องดนตรีประกอบจังหวะเพื่อเพิ่มอรรถรส  บทเสภาสามัคคีเสวก ตอน วิศวกรรมมา พระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เป็นการกล่าวถึงคุณค่าและความสำคัญของศิลปะที่มีต่อบุคคลและต่อชาติบ้านเมือง  รวมถึงงานช่างของไทยแขนงต่าง ๆ ซึ่งมีส่วนช่วยสะท้อนให้เห็นถึงความเจริญรุ่งเรืองทัดเทียมกับนานาชาติ  อีกทั้งมีการฝากข้อคิดถึงคนไทยให้ช่วยกันสนับสนุนผลงานของช่างไทยเพื่อเป็นกำลังแรงใจให้ช่างได้สร้างสรรค์ผลงานใหม่ ๆ ขึ้นมา  ซึ่งเป็นการช่วยเหลือเศรษฐกิจของประเทศชาติให้เฟื่องฟูต่อไป